ความปลอดภัย (ในการทำงาน) ง่ายนิดเดียว
(ตอนที่
๗)
ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมีข่าวการเกิดเพลิงไหม้เป็นประจำทั้งในประเทศและต่าง ประทศไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากอะไi สิ่งสำคัญที่สถานประกอบกิจการต้องเตรียมการ คือ การผจญเพลิงเพื่อระงับเหตุ
หรือถ้าไม่สามารถควบคุมได้ทุกคนในสถานประกอบกิจการจะต้องอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย
ในส่วนของกระทรวงแรงงานเองได้มีการซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟในวันที่
๓๐ มกราคม
ที่ผ่านมาเพื่อเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ถ้ามีเหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่ของกระทรวง
ซึ่งตามมาตรา ๓ พระราชบัญญัติความปลอดภัย
อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
พ.ศ.
๒๕๕๔
กำหนดให้หน่วยงานภาครัฐดำเนินการด้านความปลอดภัยฯ
อย่างน้อยเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยฯ
ที่ พรบ.
ความปลอดภัยฯ
กำหนด เช่นเดียวกัน
กลับมาที่๓
องค์ประกอบสุดท้าย ที่ผมกล่าวถึง
คือ การควบคุมเพลิงไหม้(Control
of Fire) การบริหารจัดการความเสี่ยงการเกิดเพลิงไหม้(Management
of the Fire Risk) และข้อมูลข่าวสาร
การฝึกอบรม และการให้การศึกษา (Information,
Training and Education) โดยเริ่มต้น
องค์ประกอบที่
๕
การควบคุมเพลิงไหม้(Control
of Fire) คู่มือจะกล่าวถึงการเตรียมเครื่องมือและคนให้มีความพร้อม
เช่น
การเลือกอุปกรณ์ดับเพลิงที่เหมาะสมและตำแหน่งการวางที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
ดังนั้น
การวางแผนในการควบคุมเพลิงควรมีการนำเรื่องดังกล่าว
มาประกอบการพิจารณา เช่น
- การเลือกชนิดอุปกรณ์เพื่อการดับเพลิงที่เหมาะสมกับชนิดของเพลิงที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน
- อุปกรณ์ดับเพลิงต้องถูกติดตั้งบริเวณทางออกของอาคาร เพื่อผู้รับผิดชอบสามารถเข้าถึงจากตำแหน่งที่ปลอดภัย
- ผู้ปฏิบัติงานได้รับการฝึกอบรมการใช้ถังดับเพลิงชนิดเคลื่อนย้ายได้ รวมถึงข้อแนะนำอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการผจญเพลิงอย่างปลอดภัย
- การใช้ถังดับเพลิงทุกกรณี ควรมีการรายงานต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
- มีการตรวจสอบถังดับเพลิงชนิดเคลื่อนย้ายได้ประจำทุกสัปดาห์ เพื่อมั่นใจถังดับเพลิงยังอยู่ในตำแหน่งที่กำหนดและพร้อมใช้งาน
การกำหนดขั้นตอนการรายงานสถานการณ์เพลิงไหม้ที่มีประสิทธิภาพต่อหัวหน้างานและผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจตัดสินใจ
เป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการ้ควบคุมเพลิงและ
การอพยพผู้ปฏิบัติงาน
การติดตั้งประตูทนไฟเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมการกระจายของเพลิงไหม้
โดยประตูทนไฟจะช่วยชลอกระจายของเพลิงไหม้
เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานมีเวลามากพอที่จะอพยพออกจากสถานที่ทำงานได้
กลับมาดูกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร
จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย
อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย
พ.ศ.
๒๕๕๕
ได้เน้นการดับเพลิงออกเป็น
๒ ส่วน คือ
ให้นายจ้างจัดให้มีระบบน้ำดับเพลิงและอุปกรณ์ประกอบเพื่อใช้ในการดับเพลิงที่สามารถดับเพลิงขั้นต้นได้อย่างเพียงพอในทุกส่วนของอาคาร
(ตามข้อ
๑๒ )
และให้นายจ้างจัดให้มีเครื่องดับเพลิงแบบเคลื่อนย้ายได้
(ตามข้อ
๑๓)
โดยมาตรฐานของเครื่องดับเพลิงให้เป็นไปตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
(คลิ๊กรายละเอียด)
รวมถึงให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างไม่น้อยกว่าร้อยละสี่สิบของจำนวนลูกจ้างในแต่ละหน่วยงานของสถานประกอบกิจการรับการฝึกอบรมการดับเพลิงขั้นต้น
และจัดให้ลูกจ้างทุกคนฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟพร้อมกันอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
(ในข้อ
๒๗ และข้อ ๓๐ตามลำดับ)
องค์ประกอบที่
๖ การบริหารจัดการความเสี่ยงการเกิดเพลิงไหม้(Management
of the Fire Risk)
การบริหารจัดการความเสี่ยงเกี่ยวกับเพลิงไหม้นอกจากจะมีวัตถุประสงค์
เพื่อป้องกันความเสียหายของทรัพย์สินแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ
ชีวิตของผู้ปฏิบัติงานและ
ผู้เกี่ยวข้อง
การจะดำเนินการดังกล่าวได้นั้น
ผู้รับผิดชอบต้องทราบจำนวนผู้ปฏิบัติงานและผู้เกี่ยวข้องที่เข้าติดต่อธุรกิจภายในสถานประกอบกิจการ
ซึ่งการที่จะสามารถทราบถึงข้อมูลดังกล่าวได้นั้น สถานประกอนกิจการจะต้องมีมาตรการในการตรวจสอบการเข้า-ออกสถานประกอบกิจการ
เช่น การตอกบัตรหรือเซ็นต์ชื่อก่อนเข้าทำงาน
หรือการแลกบัตรผ่านกรณีมีผู้เข้ายี่ยมชมหรือติดต่อธุรกิจภายในสถานประกอบกิจการ
โดยการดำเนินการ
ดังกล่าวควรอยู่รอบหรือห่างออกจากสถานที่ทำงานที่ความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้
เพื่อง่ายต่อการที่หน่วยงานภายนอกติดต่อขอข้อมูล
การทราบจำนวนผู้ที่ติดอยู่ภายในสถานประกอบกิจการหากเกิดเหตุเพลิงไหม้
เป็นข้อมูลที่ทำให้ผู้รับผิดชอบสามารถตรวจสอบและมั่นใจได้ว่าทุกคนสามารถอพยพออกมาได้อย่างครบถ้วน
การเตรียมพื้นที่อพยพที่ปลอดภัยเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องกำหนดไว้
โดยห่างจากสถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้
พร้อมทั้งควบคุมไม่ให้ผู้อพยพกลับสู่สถานที่เกิดเหตุเพลิงไหม้อีกครั้ง
นอกจากนั้น
ยังมีสิ่งที่ต้องพิจารณา
เช่น การกำหนดจุดจอดรถที่บรรทุกสารไวไฟ
หรือแก๊สให้ห่างออกจากอาคารและสถานที่ทำงาน
และเส้นทางการเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ของหน่วยงานภายนอก
ในแง่ของกฎหมายจะไม่ได้กำหนดให้สถานประกอบกิจการปฏิบัติโดยตรง
แต่อาจเป็นมาตรการหนึ่งที่สถานประกอบกิจการควรกำหนดในแผนการป้องกันและระงับอัคคีภัยของสถานประกอบกิจการ
ตามกฎกระทรวงฯ ข้อ ๔
ที่กำหนดให้สถานประกอบกิจการมีแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย
ประกอบด้วยการตรวจตรา การอบรม
การรณรงค์ ป้องกันอัคคีภัย
การดับเพลิง การอพยพหนีไฟ
และการบรรเทาทุกข
องค์ประกอบที่
๗ ข้อมูลข่าวสาร
การฝึกอบรม และการให้การศึกษา (Information,
Training and Education)
คู่มือได้กล่าวในภาพรวมการให้ความรู้ต่อผู้ปฏิบัติงาน
เช่น
การจัดฝึกอบรมความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับขั้นตอนกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินก่อนเข้าทำงานในสถานประกอบกิจการ
นอกจากนั้น
ยังเน้นที่การฝึกอบรมเพื่อทบทวนความรู้ให้ผู้ปฏิบัติงานอยู่เป็นประจำ
กฎกระทรวงฯ
อัคคีภัย ข้อ ๖
ได้กำหนดให้นายจ้างสั่งให้ลูกจ้างทำงานที่มีลักษณะงานหรือไปทำงาน
ณ สถานที่ที่เสี่ยงหรืออาจเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย
ให้นายจ้างแจ้งข้อปฏิบัติเกี่ยวกับความปลอดภัยในการท
างานให้ลูกจ้างทราบก่อนการปฏิบัติงาน
และสิ่งมองข้ามไม่ได้
คือ
การให้คำแนะนำและข้อมูลต่อบุคคลภายนอกที่เข้าเยี่ยมหรือติดต่อธุรกิจภายในสถานประกอบกิจการ
เช่น ระบบเสียงสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้
เส้นทางการอพยพ เป็นต้น
โดยข้อมูลอาจกำหนดอยู่ในแบบการ์ดสำหรับบุคคลภายนอก
ที่มา :
Fire Risk Management, 2012, International Labour Office.
กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร
จัดการ และดำเนินการด้านความ ปลอดภัย
อาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกัน และ ระงับอัคคีภัย
พ.ศ. ๒๕๕๕